ยางพาราสังเคราะห์ คืออะไร มีแบบไหนบ้าง ?
16/04/2018 16:17
จำนวนครั้งที่เปิดอ่าน :
1,912
Edit
ยางบิวไทล์ (Butyl Rubber, IIR)
ยางบิวไทล์ เป็น โคพอลิเมอร์ ระหว่าง มอนอเมอร์ ของ ไอโซพรีน และ ไอโซบิวทาลีน เพื่อที่จะรักษา สมบัติเด่น ของ ไอโซบิวทาลีนไว้ ยางบิวไทล์ จะมีปริมาณ ไอโซพรีน เพียงเล็กน้อย (ประมาณ 0.5-3 โมลเปอร์เซนต์) เพียงเพื่อ ให้สามารถ วัลคาไนซ์ด้วย กำมะถัน ได้เท่านั้น เนื่องจาก พอลิไอโซบิวทาลีน ไม่มีพันธะคู่ ที่ว่องไว ต่อการทำปฏิกิริยา อย่างไรก็ตาม การที่มีปริมาณ ไอโซพรีน เพียงเล็กน้อยนี้ ทำให้ การวัลคาไนซ์ ยางบิวไทล์ เป็นไปอย่างช้ามาก ทำให้เกิดปัญหา ในการสุกร่วมกับ ยางไม่อิ่มตัวอื่นๆ ยางบิวไทล์ มีน้ำหนักโมเลกุล โดยเฉลี่ย อยู่ในช่วง 300,000 ถึง 500,000 มีค่า ความหนืดมูนี่ (ML1+4 100°C) อยู่ในช่วง 40 ถึง 70 การกระจาย ขนาดโมเลกุล ค่อนข้างจะกว้าง ทำให้การแปรรูป ยางบิวไทล์ ทำได้ง่าย ยางบิวไทล์ มีสมบัติที่ดี หลายประการ คือ ทนต่อ การออกซิเดชัน ทนต่อ โอโซน ทนต่อ ความดันไอน้ำสูง และ มีความเป็น ฉนวนไฟฟ้า ที่ดี ยางบิวไทล์ปล่อยให้ก๊าซ ซึมผ่าน ได้ต่ำมาก ทำให้ ตลาดส่วนใหญ่ ของ ยางบิวไทล์ คือ
ยางในรถยนต์ ทุกขนาด
ยางบิวตาไดอีน (Butadiene) หรือ ยางบิวนา (Buna)
ผลิตจากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบสารละลาย (solution polymerization) ซึ่งมีการจัดเรียงตัวได้ทั้งแบบ cis-1,4 แบบ tran-1,4 และแบบ vinyl-1,2 โดยยางชนิดนี้จะมีน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยประมาณ 250,000-300,000
มีสมบัติเด่นด้านความยืดหยุ่น ความต้านทานต่อการขัดถู ความสามารถในการหักงอที่อุณหภูมิต่ำ ความร้อนสะสมในยางต่ำ และเป็นยางที่ไม่มีขั้วจึงทนต่อน้ำมันหรือตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว ยางบิวตาไดอีนส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมยางล้อ เพราะเป็นยางที่มีความต้านทานต่อการขัดถูสูง และมักถูกนำไป
ทำใส้ในลูกกอล์ฟและลูกฟุตบอล
เนื่องจากมีสมบัติด้านการกระเด้งตัวที่ดี
ยางสไตรีนบิวตาไดอีน (Styrene-Butadiene) หรือ ยาง SBR
เป็นยางสังเคราะห์ที่เตรียมขึ้นโดยการนำสไตรีนมาโคพอลิเมอไรซ์กับบิวตาไดอีน โดยวิธีพอลิเมอไรเซชันแบบอิมัลชั่น (emulsion polymerization) โดยเรียกยางที่ได้ว่า E-SBR และอาจใช้วิธีพอลิเมอไรเซชันแบบสารละลาย (solution polymerization) เรียกว่า L-SBR โดยทั่วไปสัดส่วนของสไตรีนต่อบิวตาไดอีนอยู่ในช่วง 23-40%
ยางซิลิโคน (Silicone)
เป็นยางสังเคราะห์ที่ใช้งานเฉพาะอย่างและราคาสูง เป็นได้ทั้งสารอินทรีย์และอนินทรีย์พร้อม ๆ กัน เนื่องจากโมเลกุลมีโครงสร้างของสายโซ่หลักประกอบด้วย ซิลิกอน (Si) กับออกซิเจน (O) และมีหมู่ข้างเคียงเป็นสารพวกไฮโดรคาร์บอน ซึ่งต่างจากพอลิเมอร์ชนิดอื่น ๆ ทำให้ยางซิลิโคน ทนทานต่อความร้อนได้สูง และยังสามารถออกสูตรยางให้ทนทานความร้อนได้สูงประมาณ 300°C ยางซิลิโคนมีช่องว่างระหว่างโมเลกุลที่สูงและมีความทนทานต่อแรงดึงต่ำ เนื่องจากมีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลต่ำมาก
ยางคลอโรพรีน (Chloroprene) หรือ ยางนีโอพรีน (Neoprene)
เป็นยางที่สังเคราะห์จากมอนอเมอร์ของคลอโรพรีน ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม โมเลกุลของยาง CR สามารถจัดเรียงตัวได้อย่างเป็นระเบียบสามารถตกผลึกได้เมื่อดึง มีสมบัติคล้ายยางธรรมชาติ ยาง CR เป็นยางที่มีขั้วเนื่องจากประกอบด้วยอะตอมของคลอรีน ทำให้ยางชนิดนี้มีสมบัติด้านการทนไฟ, ความทนต่อสารเคมีและน้ำมัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้งานในลักษณะดังกล่าว ได้แก่
ยางซีล, ยางสายพานลำเลียงในเหมืองแร่ เป็นต้นแต่ยังมีอีกหลายประเภท
หมายเหตุ
ยางสังเคราะห์ อายุการใช้งาน หมอนจะเริ่มแปรสภาพ แข็งตัว เปลี่ยนสี
ถ้าหมอนโดนความร้อน หรือ น้ำ จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้หมอนแข็งตัว และ สีเปลี่ยนเร็วขึ้น
url:
https://youtu.be/DcS81RJluAs
Edit
Edit
หมอนยางพารา
Thai Royal Otop ไทยรอยัล Latex
ผลิตภัณฑ์ยางพาราแท้ 100% รับรองมาตราฐาน ด้วย
รางวัล AEC ปี 2560
,
BangkokBrand
, OTOP และ
SME IDOL2019
ประเทศ HONGKONG เป็นสินค้าที่มั่นใจได้ว่า
Made In Thailand 100%
**สั่งซื้อสินค้า**
หรือ
สมัครตัวแทนจำหน่าย
ติดต่อ
0825194871
หรือ
LINE:
@thairoyallatex
Edit
0